ทำไมชอบการทำงานเป็น In-house Lawyer มากกว่าการทำงานใน Law Firm

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ทำไมชอบการทำงานเป็น In-house Lawyer มากกว่าการทำงานใน Law Firm

การทำงานในสำนักงานกฎหมาย (Law Firm) และการทำงานเป็นทนายความประจำองค์กร (In-house Lawyer) มีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของการทำงาน, สภาพแวดล้อม และโอกาสในการพัฒนาอาชีพ แต่สำหรับหนิงแล้ว การทำงานเป็น In-house Lawyer คือสิ่งที่หนิงชอบมากที่สุด เพราะได้สัมผัสกับงานหลากหลายและได้มีส่วนร่วมในทุกมิติของธุรกิจ ในขณะที่การทำงานใน Law Firm อาจเน้นหนักไปที่การจัดการคดีหรือให้คำปรึกษาทางกฎหมายตามประเภทคดีเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ “ความหลากหลายของงาน” ที่หนิงชอบมาก ๆ

การทำงานเป็น In-house Lawyer

การเป็น In-house Lawyer คือการทำงานในองค์กรหรือบริษัทเป็นทนายความประจำตัว ซึ่งเราจะได้ทำงานกับทีมภายในองค์กรโดยตรง รวมถึงการให้คำแนะนำด้านกฎหมายในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นสัญญาการค้า, การควบรวมกิจการ (M&A), การปฏิบัติตามข้อบังคับต่าง ๆ, หรือการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร โดยปกติแล้ว In-house Lawyer จะไม่ได้รับมอบหมายงานตามประเภทคดีเฉพาะแบบใน Law Firm แต่จะได้ทำงานที่หลากหลายและคอยให้คำแนะนำในหลาย ๆ ด้าน เช่นเดียวกับการบริหารความเสี่ยงทางกฎหมายภายในองค์กร

การทำงานใน Law Firm

ในทางกลับกัน การทำงานใน Law Firm ส่วนใหญ่จะเน้นการให้คำปรึกษาและบริการทางกฎหมายที่เจาะจงในบางประเภท เช่น คดีแพ่ง, คดีอาญา, การซื้อขายบริษัท, หรือการทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ซึ่งอาจทำให้ทนายความใน Law Firm ต้องมุ่งเน้นไปที่งานบางประเภท และอาจมีข้อจำกัดในเรื่องของความหลากหลายของงานที่ทำ

ข้อดีของการเป็น In-house Lawyer

สิ่งที่หนิงชอบที่สุดในการทำงานเป็น In-house Lawyer คือการที่เราได้มีโอกาสทำงานที่หลากหลายมากกว่าใน Law Firm การที่บริษัทหรือองค์กรมีหลายแผนกและหลายธุรกิจ ทำให้เราได้รับโอกาสในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกฎหมายในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยองค์กรปรับปรุงกระบวนการภายใน หรือช่วยทีมต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่หนิงรู้สึกว่าท้าทายและสนุก

ข้อเสียของการเป็น In-house Lawyer

แม้ว่าจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่การเป็น In-house Lawyer ก็มีข้อเสียที่หนิงก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ นั่นคือ เราต้องทำงานภายใต้กรอบที่บริษัทกำหนดไว้ ซึ่งอาจมีข้อจำกัดบางประการในด้านการตัดสินใจหรือการดำเนินการทางกฎหมาย เนื่องจากต้องพิจารณาผลประโยชน์ทางธุรกิจควบคู่ไปกับการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย อีกทั้งบางครั้งก็อาจมีความกดดันในการต้องให้คำปรึกษาที่เร็วและมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากเป็นการทำงานภายในองค์กรที่มีการตัดสินใจที่รวดเร็ว

ความหลากหลายของงานที่ทำ

อีกหนึ่งข้อดีของการเป็น In-house Lawyer คือการที่ได้สัมผัสงานหลายประเภท ทั้งการให้คำปรึกษาเรื่องสัญญาการค้า, การควบรวมกิจการ, หรือแม้กระทั่งการจัดการปัญหากฎหมายที่อาจเกิดขึ้นภายในองค์กร ซึ่งต่างจากการทำงานใน Law Firm ที่ทนายความบางคนอาจจะเน้นทำงานเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้มีโอกาสได้พัฒนาทักษะในเรื่องนั้น ๆ มากกว่า

ในความรู้สึกของหนิง การเป็น In-house Lawyer คือสิ่งที่หนิงชอบมาก เพราะได้สัมผัสกับงานที่หลากหลายและได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดบางอย่างในการทำงาน แต่หนิงก็รู้สึกว่ามันมีความท้าทายและมีความสุขในการทำงานในทุกวัน การทำงานใน In-house Lawyer ช่วยให้หนิงได้เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจและเข้าใจมุมมองทางการเงินและการดำเนินงานในเชิงลึกมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้หนิงพอใจและอยากจะทำในอนาคต

หนิง นันทิชา


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Bloggers

About หนิง นันทิชา
นักกฎหมาย(ยัง)สาว ด้าน Commercial Law ชำนาญการตรวจสอบสัญญาธุรกิจ ศึกษาเรื่องการบริหารทรัพย์สินทางปัญญาให้เกิดมูลค่าเชิงพาณิชย์นานนับ 10 ปี รักในการถ่ายทอดความรู้เทคนิคการอ่านการตีความเงื่อนไขทางธุรกิจให้กับกลุ่มคนที่ไม่ใช่นักกฎหมาย เคยทำงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาในมหาวิทยาลัยรัฐและปัจจุบันดูแลงานกฎหมายในบริษัทมหาชน นันทิชาเป็นศิษย์เก่า Queen Mary, University of London (QMUL) School of Law สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท LLM สาขา Intellectual Property Law และ LLM with Merit สาขา Tax Law และเนติบัณฑิตไทย