รักษาครั้งเดียว เสี่ยงทั้งระบบ: เมื่อกฎหมายชี้ให้โรงพยาบาลและแพทย์ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ในคดีที่เกี่ยวกับบริการทางการแพทย์ หากเป็นการฟ้องร้องภายใต้ฐานะ “ผู้บริโภค” ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 จะมีหลักที่แตกต่างจากคดีแพ่งทั่วไปอย่างสำคัญประการหนึ่ง นั่นคือ “ภาระการพิสูจน์” จะย้ายจากฝ่ายผู้ฟ้อง (ผู้ป่วย) มาอยู่ที่ฝ่ายผู้ให้บริการ (โรงพยาบาลหรือแพทย์)

สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้อยู่ที่มาตรา 29 ซึ่งบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า หากข้อเท็จจริงในคดีเป็นสิ่งที่อยู่ในความรับรู้ของฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจ ภาระในการพิสูจน์ว่าไม่ได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อจะตกอยู่กับฝ่ายนั้น มิใช่ให้ผู้เสียหายต้องพิสูจน์เองเหมือนในคดีทั่วไป

การเปลี่ยนแปลงภาระการพิสูจน์นี้มีนัยสำคัญในทางคดีอย่างยิ่ง เพราะการกระทำทางการแพทย์มักเป็นกิจกรรมเฉพาะทางที่มีเทคนิคสูง และข้อมูลส่วนใหญ่ก็อยู่ในความครอบครองของโรงพยาบาลหรือแพทย์ การจะให้ผู้ป่วยซึ่งมักไม่ใช่ผู้มีความรู้เฉพาะทางต้องมาพิสูจน์ว่าแพทย์ทำผิดพลาดจึงเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมและแทบเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ลองพิจารณากรณีที่เคยถึงศาลฎีกา ซึ่งเกี่ยวกับผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจอัลตราซาวด์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่กลับเกิดอุบัติเหตุพลัดตกจากเตียงตรวจในระหว่างที่รังสีแพทย์สั่งให้เปลี่ยนท่านอน โดยในคดีนี้ ศาลวินิจฉัยว่า ภาระการพิสูจน์ว่าการกระทำนั้นไม่ใช่ความประมาทเลินเล่อตกอยู่กับโรงพยาบาลและแพทย์ผู้ให้บริการ เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในห้องตรวจ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมของสถานพยาบาล และข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะการจัดห้อง การดูแลผู้ป่วย ตลอดจนมาตรฐานที่ใช้เป็นเรื่องที่อยู่ในความรู้ของฝ่ายจำเลย

แม้ท้ายที่สุดศาลจะพิเคราะห์จากพยานหลักฐานแล้วเห็นว่าการตกเตียงดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย และแพทย์ได้ใช้ความระมัดระวังสมควรแล้ว แต่สาระสำคัญที่ต้องตระหนักคือ โรงพยาบาลและแพทย์ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบโดยอ้างเพียงว่า “ไม่ได้ทำผิด” หากไม่มีการพิสูจน์แสดงให้ศาลเห็นถึงมาตรการหรือพฤติกรรมที่แสดงถึงความไม่ประมาทอย่างชัดเจน

ข้อพึงระวังสำหรับสถานพยาบาลคือ เมื่อให้บริการทางการแพทย์ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจ ต้องเตรียมพร้อมรับผิดในแง่ของกฎหมายผู้บริโภคเสมอ ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ การจัดให้มีมาตรฐานปฏิบัติงานที่ชัดเจน และการอบรมบุคลากรให้รู้ถึงหน้าที่ตามกฎหมายนี้ ภาระการพิสูจน์ที่กลับด้านนี้ อาจดูเป็นภาระสำหรับสถานพยาบาล แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ถือเป็นกลไกทางกฎหมายที่ส่งเสริมให้มีการให้บริการทางการแพทย์อย่างรอบคอบ ปลอดภัย และคำนึงถึงสิทธิของผู้ป่วยอย่างแท้จริง

ไกรวัล


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Bloggers

About ไกรวัล
ทำงานกฎหมาย ร่าง เจรจาสัญญาธุรกิจระหว่างประเทศมานาน 15 ปี เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษและไวยากรณ์ขั้นสูงในงานกฎหมาย รอบรู้เรื่องเอกสารภาษาอังกฤษในงานธุรกิจ เรียบเรียงหนังสือเรียนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการมากกว่า 20 เล่ม เคยชนะเลิศอันดับหนึ่งการคัดเลือกหานักเขียนนิตยสาร I Get English เคยทำคะแนน TOEIC เต็ม 990 ทำ IELTS score 8 โดยเฉพาะ writing part และหนึ่งในสามคนไทยที่สอบได้ใบอนุญาตฟีฟ่าประกอบธุรกิจตัวแทนนักฟุตบอลทั่วโลกครั้งแรก ไกรวัลจบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขา International Business (awarded with Distinction) จาก University of Wollongong และสาขาการเงิน จาก University of Newcastle