เมื่อกฎหมายไม่ได้นำไปสู่งาน: ชีวิตของผู้รอสอบ

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

ในแวดวงนิติศาสตร์ไทย เรามักคุ้นเคยกับภาพของนักศึกษาจบใหม่ที่มุ่งมั่น “อ่านหนังสือรอสอบ” ไม่ว่าจะเป็นสอบเนติบัณฑิตไทย สอบอัยการผู้ช่วย หรือสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา

สำหรับบางคน นี่คือเส้นทางหลักที่ถูกวางไว้ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าสู่รั้วคณะนิติศาสตร์ เป็นเป้าหมายที่ชัดเจน มีเกียรติ และเป็นสัญลักษณ์ของ “ความสำเร็จ”

แต่เบื้องหลังความฝันนั้นคือการเดิมพันครั้งใหญ่—ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะชนะ

เพราะการอ่านหนังสือแบบเต็มเวลาโดยไม่ทำงานอื่นควบคู่ มันคือการทุ่มชีวิตทั้งหมดให้กับสนามสอบที่โหดหิน อัตราการสอบผ่านไม่เคยปรานี และเวลาไม่เคยหยุดเดิน

หลายคนใช้เวลานับปี บางคนลากยาวเกินครึ่งทศวรรษหรืออาจยาวเกินทศวรรษ โดยยังไม่แน่ใจว่าจะได้สวมเครื่องแบบข้าราชการเมื่อไร

ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นหลายคนเริ่มมีโปรไฟล์การทำงาน มีเงินเดือน มีเครือข่ายวิชาชีพ คนที่ “รอสอบ” กลับพบว่าตัวเองเริ่มห่างออกจากตลาดแรงงานทุกที ไม่ใช่เพราะไม่มีความสามารถ แต่เพราะช่วงเวลาที่ผ่านไปอย่างเงียบงัน กลายเป็น “ช่องว่าง” บนเรซูเม่ที่อธิบายยาก และเข้าไม่ถึงโอกาสใหม่ ๆ

แน่นอน มีคนสอบติด และชีวิตเปลี่ยนในทางที่ดี แต่สำหรับอีกหลายคนที่ยังไม่ติด หรือสอบซ้ำแล้วยังไม่ผ่าน เขาต้องเผชิญคำถามสำคัญในใจ: จะหยุด หรือจะไปต่อ?

การกลับเข้าสู่ตลาดงานหลังจากเว้นวรรคไปหลายปีไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะเมื่อไม่มีประสบการณ์ทำงาน หรือไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน หลายคนเลือกที่จะ “อ่านต่อ” เพราะไม่มีทางเลือกอื่น และหวังว่าสักวันจะถึงเส้นชัย นี่คือความเสี่ยงที่สังคมแทบไม่พูดถึง ระบบการศึกษากฎหมายไทยยังเน้นการสอบเป็นบันไดเดียวสู่ความสำเร็จ

ขณะที่เส้นทางอาชีพอื่นในสายกฎหมาย เช่น นิติกร in-house, ที่ปรึกษากฎหมาย, นักกฎหมายธุรกิจ หรือสาย legal tech ยังขาดการผลักดันจากระบบมหาวิทยาลัยและการแนะแนวอาชีพ

เราจึงเห็นปรากฏการณ์ซ้ำ ๆ ที่นักศึกษาจบนิติศาสตร์จำนวนไม่น้อยเลือกจะ “รอสอบ” แทนที่จะ “เริ่มทำงาน” เพราะกลัวว่าการหันไปทำอย่างอื่นจะเป็นการ “ละทิ้งเป้าหมาย” หรือ “ไม่มีคุณค่าเท่า” กับการสอบติดในระบบตุลาการ

คำถามที่สังคมควรถามจึงไม่ใช่แค่ว่า “ทำไมยังสอบไม่ติด?”

แต่ควรถามว่า ทำไมหลายคนต้องเดิมพันชีวิตทั้งชีวิตกับสนามสอบเพียงไม่กี่สนาม?

และเราจะออกแบบระบบการผลิตนักกฎหมายอย่างไร ให้ไม่บีบให้คนต้องเลือกเพียงทางเดียว?

อาจถึงเวลาที่เราจะต้องยอมรับว่า ความสำเร็จของนักกฎหมาย ไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว และการเริ่มทำงาน ไม่ควรถูกมองว่าเป็น “ทางเลือกสำรอง” แต่เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่มีคุณค่าไม่แพ้กัน

เครดิตภาพ: rawpixel

ชอุ่ม รัตติยากร


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Bloggers

About ชอุ่ม รัตติยากร
นิติกรสาย in-house ที่ไม่ได้มีแค่ความรู้กฎหมาย แต่ยังเข้าใจผู้คนและมีทักษะสื่อสารเพื่อให้งานเดินหน้าอย่างราบรื่น แม้ชีวิตจะยุ่งอยู่กับงานของฝ่ายกฎหมายมากเพียงใดก็ตาม เธอยังสนุกกับการสังเกตพฤติกรรม พฤติการณ์ในที่ทำงาน รวมถึงเป็นที่ปรึกษาที่ดี ที่พึ่งในการแก้ปัญหาให้เพื่อน ๆ เพราะเชื่อว่า กฎหมายกับชีวิตมนุษย์เงินเดือนใกล้กันกว่าที่หลายคนคิด