เลิกจ้างแล้วจ่ายค่าชดเชย นายจ้างต้องหัก ณ ที่จ่ายหรือไม่? หรือว่าลูกจ้างได้รับการยกเว้นภาษี?
เงินชดเชยเลิกจ้าง… เรื่องนี้ยังคงสร้างความสับสน “ต้องเสียภาษีหรือไม่?” “ยกเว้นภาษีได้จริงหรือ?”
ประมวลรัษฎากรกำหนดว่าเงินที่ลูกจ้างได้รับจากการเลิกจ้าง จะได้รับ “สิทธิยกเว้นภาษี” ก็ต่อเมื่อเข้าเงื่อนไข คือ
– ต้องเป็นการออกจากงานโดยไม่ได้สมัครใจ เช่น เลิกจ้าง ไม่ใช่ลาออก
– ต้องเป็นเงินที่ได้ครั้งเดียวจากการออกจากงานนั้น
– ต้องไม่เป็นเงินได้ที่จ่ายเป็นงวด ๆ หรือรายเดือนหลังจากนั้น
นั่นคือ ค่าชดเชยตามเกณฑ์ที่พนักงานได้รับจากการถูกเลิกจ้างตามมาตรา 118 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน จะเข้าข่ายได้รับยกเว้นภาษี (ในวงเงินที่กฎหมายกำหนด)
สิ่งที่ต้องรู้ ก็คือ เงินชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ได้รับยกเว้นภาษีเฉพาะส่วนที่ไม่เกินค่าจ้าง 300 วัน หรือไม่เกิน 300,000 บาทเท่านั้น
แต่ข่าวดีล่าสุด! ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2566 เป็นต้นมา เพดานยกเว้นนี้ถูกปรับเพิ่มเป็นค่าจ้าง 400 วัน และจำนวนเงินที่ยกเว้นภาษีสูงสุดถึง 600,000 บาท ทำให้เงินชดเชยในส่วนนี้ไม่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้
อย่างไรก็ตาม หากเงินชดเชยเกินกว่านี้ ส่วนนอกเหนือจากเพดานต้องถูกคิดภาษีตามปกติ เจ้าของธุรกิจและฝ่ายบุคคลต้องระวังอย่างมาก ห้ามนำเงินส่วนเกินนี้ไปยกเว้นภาษีผิดกฎหมายเด็ดขาด
จุดที่หลายคนพลาดอีกข้อคือ เงินได้จากการเลิกจ้างประเภทอื่น เช่น สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า เงินส่วนนี้ถูกจัดเป็นรายได้ปกติ ต้องเสียภาษีทันที ไม่มีการยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น
กรณีตรงไปตรงมา เช่น ค่าชดเชยที่พนักงานได้รับตามมาตรา 118 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน โดยได้ค่าชดเชยตามเกณฑ์ จะเข้าข่ายได้รับยกเว้นภาษี (ในวงเงินที่กฎหมายกำหนด) แต่หากได้รับเงินเพิ่ม เช่น ค่าตกลงพิเศษ (ex gratia) หรือเงินสินน้ำใจจากนายจ้าง อาจไม่ได้รับการยกเว้นทั้งหมด ต้องนำมาพิจารณาเฉพาะส่วน
หัวใจสำคัญ คือ ฝ่ายบัญชีและ HR ต้องแยกประเภทเงินได้แต่ละส่วนให้ชัดเจน เพื่อคำนวณภาษีได้ถูกต้อง และป้องกันการโดนสรรพากรตรวจสอบในอนาคต
อีกเรื่องที่พลาดกันบ่อย คือการหักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) —ส่วนที่ได้รับยกเว้นภาษี จะไม่ถูกหัก ณ ที่จ่าย แต่ส่วนที่เกินเพดานต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย! ความเข้าใจไม่ถูกต้องในจุดนี้อาจทำให้เงินที่ลูกจ้างได้รับจริงลดลงกว่าที่คาด และสร้างปัญหาการบริหารเงินสด รวมถึงการวางแผนภาษีขององค์กร
ระบบกฎหมายภาษีแบบนี้ ถูกออกแบบมาให้สมดุล ระหว่างสิทธิของลูกจ้างกับการเก็บภาษีอย่างเป็นธรรม ป้องกันการใช้เงินชดเชยเลิกจ้างเป็นช่องทางเลี่ยงภาษีอย่างไม่เหมาะสม
สำหรับเจ้าของกิจการ ฝ่ายบริหาร หรือคนทำบัญชีและ HR อย่ามองข้ามประเด็นนี้เด็ดขาด!
เพราะการจัดการภาษีเงินชดเชยเลิกจ้างผิดพลาด อาจนำไปสู่ความเสียหายทั้งทางกฎหมายและการเงิน การทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ถูกต้อง จะช่วยให้บริหารจัดการภาษีได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงทางกฎหมาย และสร้างความโปร่งใสในการจ่ายเงินชดเชยแก่ลูกจ้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ไกรวัล